1. NPARK แนเชอรัลพาร์ค กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ราคาจากต้นปี 0.01 บาท มาปิดสิ้นส.ค 0.05บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น400% ........จากเดิมตั้งแต่ปี49 ขาดทุนมาตลอด มองไม่เห็นอนาคตของหุ้นตัวนี้ ภาระหนี้สินเพียบราคาหุ้นเลยลงมาเหลือ0.01บาท ลงแบบลงไปกว่านี้ไม่ได้แล้วละค่ะ ..... จากนั้นครึ่งปีแรกของปี53ก็เริ่มกลับมามีกำไร และเริ่มมีสตอรี่การเตรียมขึ้นโครงการ มีทั้งอามันรีสอร์ท โรงแรมระดับ6ดาวที่จะขึ้นบริเวณที่ดินร้อยชักสาม มูลค่าประมาณ1พันล้าน และยังมีโรงแรมเคมพินสกีหลังพารากอนด้วยค่ะ.....
2.STA ศรีตรังอะโกรอินดัสทรี กลุ่มเกษตรอาหาร ราคาจากต้นปี 4.52 บาท มาปิดสิ้นส.คที่ 21.20 บาท คิดเป็นปรับขึ้น 369% ....... เป็นหุ้นยางที่รับผลดีราคายางตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นผลประกอบการโตโดดเด่น พีอีต่ำ และมีสตอรี่เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ ซึ่งล่าสุดชะลอออกไปก่อน ....
3.BJC เบอร์ลี่ ยุกเกอร์ กลุ่มพาณิชย์ ราคาจากต้นปี5.00 บาท มาปิดสิ้นส.คที่ 19.20 บาท คิดเป็นปรับขึ้น284% ..... ประเด็นหลักมาจากเรื่องผลประกอบการที่โตและมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และยังมีประเด็นเตรียมเข้าซือ้กิจการคาร์ฟูร์ซึ่งอยู่ระหว่างการเปิดประมูล แนวโน้มธุรกิจกำไรยังแข็งแกร่งจากการเข้าซื้อกิจการ และมีลุ้นเข้าคำนวณในSET50.....
4.CNT คริสเตียนีแอนด์นีลเส็น กลุ่มรับเหมา ราคาจากต้นปี2.04บาท มาปิดสิ้นส.คที่7.60บาท คิดเป็นปรับขึ้น273% ...... ประเด็นหลักมาจากผลประกอบการฟื้นตัวโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญมาเป็นอันดับ1ในกลุ่ม ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้น และคาดหวังว่าจะได้งานประมูลใหญ่ในอนาคตอีกหลายงาน .....
5.GLOBAL สยามโกลบอลเฮาส์ กลุ่มพาณิชย์ ราคาจากต้นปี 2.60 บาทมาปิดสิ้นส.คที่ 9.40บาท คิดเป็นปรับขึ้น 262% ........ เป็นหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาเทรดได้ไม่นานแต่ยอดขายและกำไรมีการขยายตัวสูงคาดปีนี้โต100% จากการเปิดสาขาใหม่ ได้รับผลบวกจากนโยบายอุดหนุนของรัฐบาล ......
6.CWT ชัยวัฒนาแทนเบอรี่กรุ๊ป กลุ่มยานยนต์ ราคาจากต้นปี2.33 บาท มาปิดสิ้นส.คที่8.05 บาท คิดเป็นปรับขึ้น 250% ..... ประเด็นหลักมาจากเป็นหุ้นทำเบาะหนังที่อิงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลบวกจากตลาดโลกที่ฟื้นตัว ผลประกอบการพลิกจากขาดทุนกลับมาเป็นกำไร .......
7.TRUBB ไทยรับเบอร์ลาเทกซ์คอร์เปอเรชั่น กลุ่มเกษตร อาหาร ราคาจากต้นปี2.33บาท ปิดสิ้นส.คที่8.15บาท คิดเป็นปรับขึ้น250% ...... เป็นหุ้นยางอีกตัวที่ราคาหุ้นปรับขึ้นร้อนแรงตามราคายางตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นผลประกอบการโตและP/Eต่ำ และdividend yeildสูง ทำให้เกิดแรงซือ้ต่อเนื่อง ..... ล่าสุดมีประเด็นเล็งดึงรัฐวิสาหกิจจีนแปรรูปยางพารา ........
8.TPP ไทยบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ราคาจากต้นปี4.68 บาท มาปิดสิ้นส.คที่ 14.20บาท คิดเป็นปรับขึ้น203% ..... เป็นหุ้นในกลุ่มที่ก่อนนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมแต่ผลประกอบการฟื้นตัวและพีอีต่ำ ราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊คแวลู จึงมีแรงซือ้เข้ามา ..... แถมด้วยกระแสการอาจโดนเทคโอเวอร์จากกลุ่มเจ้าพ่อน้ำเมา .....
9.SSC เสริมสุข กลุ่มเกษตรอาหาร ราคาจากต้นปีที่16.50บาท มาปิดสิ้นส.คที่49.50บาท คิดเป็นปรับขึ้น200% ....... ประเด็นน่าจะมาจาก กำไรโต และเคยมีประเด็นการแย่งชิงหุ้น โดยเป๊ปซี่ไล่ซือ้ และกลุ่มโอสถานุเคราะห์ขายบิ๊กล๊อตให้กลุ่มบุลสุข .....
10.LHK โลหะกิจ เมททอล กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ราคาจากต้นปี1.22บาท มาปิดสิ้นส.คที่3.56บาท คิดเป็นปรับขึ้น192% ....... เป็นหุ้นในกลุ่ม MAI ที่เติบโตรวดเร็ว รับผลบวกทั้งกลุ่มยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฟื้นตัว มีกระแสข่าวเรื่องวางแผนร่วมมืออินเดีย ตั้งบริษัทยานยนต์ ขยายธุรกิจท่อไอเสีย ....
เหลือเชื่อนะคะเพื่อนๆ .... ใครเลยจะคิดว่าหุ้นหลายตัวในตลาดที่สามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่ปรับขึ้นมากกว่า200% ในเวลาที่ไม่ถึง1ปี ..... แต่จากนี้ไป หุ้นน่าจะเล่นยากขึ้นจากราคาที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว และหากจะขึ้นต่อจากนี้ได้ หุ้นตัวนั้นคงต้องมีสตอรี่ที่ดีในอนาคตและผลประกอบการที่เติบโตแข็งแรงนะคะ ..... อย่างไรก็ตามแม่หมอสาวก็จะคอยติดตามหาข้อมูลมารายงานให้กับเพื่อนๆเสมอค่ะ เพื่อการอ่านหมากตลาดหุ้นของเราจะได้ เฉียบ และคม และทำกำไรในตลาดได้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น