สวัสดีค่ะเพื่อนๆขา....

แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้นยังคงเป็นเพื่อนร่วมทาง(การลงทุน)เพื่อนๆเหมือนเดิม โดยนำเสนอ หุ้นมีข่าว เช้าบ่าย ค่ำ อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดวัน ตลอดคืน .......แถมวันเสาร์มีเสริมบารมีนักลงทุนมานำเสนอเพื่อความเฮงด้วยนะคะ .... ส่วนวันอาทิตย์เป็นความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในหัวข้ออ่านหมากตลาดหุ้นค่ะ .... สำหรับข่าวเรียลไทม์ ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะสมาชิคเท่านั้นนะคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดต่อขอเป็นสมาชิคได้ที่ magicstocknews @gmail.com หรือ 086-8673392 ค่ะ


*

วันศุกร์

ไหว้พระ9วัดอยุธยาเสริมมงคลชีวิต


สวัสดีวันเสาร์ค่ะ เพื่อนๆขา วันนี้แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้น มีโปรแกรม ไหว้พระ9วัดอยุธยา เสริมมงคลชีวิตมานำเสนอเพื่อนๆสำหรับการหยุด long weekend สัปดาห์หน้าค่ะ เผื่อเพื่อนๆจะชวนคุณแม่และครอบครัวไปท่องเที่ยวทำบุญกัน ..... หรือถ้าใครพร้อมจะไปกันเสาร์อาทิตย์นี้เลยก็ไม่ผิดกติกานะคะ  ไหว้พระ9วัด สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ 1. เตรียมใจให้บริสุทธิ์ ไปด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา 2. เตรียมเงิน อาจเป็นเศษสตางค์เยอะหน่อยไว้หยอดตู้ หรือแบงค์ 20ก็ได้ค่ะ 3. เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้บันทึกภาพการท่องเที่ยวและเรื่องราวที่ประทับใจ  แค่นี้เองค่ะ...... ที่เหลือดอกไม้ธูปเทียนไปหาที่วัดได้เลยค่ะ  เราไปดูโปรแกรมกันเลยนะคะ

1.วัดพนัญเชิง

วัดพนัญเชิง วมีความเชื่อกันว่าเมื่อมากราบไหว้จะช่วยเสริมมงคลด้านการค้าพาณิชย์รุ่งเรือง ความสำเร็จในงานค่ะ วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ...... สิ่งสำคัญที่สุดของวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 20 เมตร 17 เซนติเมตร สูง 19 เมตร ซึ่งแต่เดิมนั้นประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโต" หรือชาวไทยเชื้อสายจีน เรียกว่า "ซำปอกง" ตำนานกล่าวว่าเมื่อคราวจะเสียกรุงครั้งที่ 2 มีน้ำพระเนตรไหลลงมาถึงพระนาภี..... วัดและองค์พระชำรุด เนื่องจากไฟไหม้ใน พ.ศ.2444 จึงได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน..... นอกจากนี้ ยังมีเก๋งจีนขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ทางด้านข้างของพระวิหารใหญ่ ชาวบ้านเรียกอาคารเก๋งจีนนี้ว่า "ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก" ตัวอาคารเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงามด้วยค่ะ


2.วัดหน้าพระเมรุราชิการาม

วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา อยู่ในสภาพสมบูรณ์ซึ่งททท. ยกให้เป็นหนึ่งในวัดอันซีนไทยแลนด์เลยนะคะ .....เนื่องจากว่ามีพระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชรญ์บรมไตรโลกนาถ ที่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ทรงเครื่องที่ใหญ่และงดงามที่สุดในเมืองไทย
ที่พลาดไม่ได้ต้องมากราบท่านในทริปไหว้พระ9วัดอยุธยาเลยละค่ะ





3. วัดใหญ่ชัยมงคล

วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าไทสร้างเมื่อ พ.ศ. 1900 โดยสมเด็จพระเจ้าอู่ทองค่ะ...... และในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พ.ศ.2135 ได้มีการสร้าง“พระเจดีย์ชัยมงคล”ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้ชัยในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี พร้อมกับพระราชทานนามว่า “วัดชัยมงคล” แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดใหญ่ชัยมงคล” เพราะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในอยุธยามองเห็นโดดเด่นแต่ไกล ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่นะคะ......... ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคลพระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดซึ่งว่ากันว่าใครที่ไหว้พระวัดนี้จะมีมงคล สมดังชื่อวัดแถมยังจะมีหน้าที่การงานใหญ่โต สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้โดยง่ายด้วยละค่ะ ........ นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2544 อีกด้วยค่ะ.......


4.วัดท่าการ้อง

เป็นวัดโบราณที่มีมาแต่สมัยอยุธยา สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2092 หรือประมาณ 460 ปีมาแล้วนะคะ.... สันนิษฐาว่าคงเป็นวัดที่ราษฎรสร้าง เพราะไม่ปรากฏรายชื่อพระอารามหลวงสมัยอยุธยา   เป็นวัดที่นายขนมต้มมาฝึกฝนศิลปะแม่ไม้มวยไทยเลยนะคะเนี่ย .....สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้ คือ หลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาค่ะ....ใกล้ๆ กับโบสถ์มีศาลเจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งคนที่มากราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียนส่วนใหญ่มักจะมาขอเลขเด็ดกันทั้งนั้นค่ะ....... ถัดจากศาลเจ้าแม่ตะเคียนเดินไปศาลาการเปรียญเป็นอาคารทรงไทยไม้สัก บนศาลาเต็มไปด้วยญาติโยมที่มาทำบุญ ด้านล่างข้างศาลามีญาติโยมต่อแถวบริจาคปัจจัยทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดตารางวาละ 1 บาท พร้อมทั้งบริจาคค่าน้ำค่าไฟ..... ถัดไปเป็นที่ตั้งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในห้องแอร์ ....  วัดท่าการ้องขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่ห้องน้ำสะอาดมากที่สุดแห่งหนึ่ง การันตีด้วยรางวัลชนะเลิศ ตอนประกวดห้องน้ำวัดทั่วประเทศไทยเลยละค่ะ


5.วัดธรรมมิกราช

วัดธรรมิกราช” วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างก่อนกรุงศรีอยุธยานะคะ...... มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างเช่น เจดีย์ประธานทรงลังกาที่เป็นรูปพญานาค 7 เศียรแผ่พังพาน นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ แต่ว่าถูกเผาทำลายเหลือแต่เศียรพระ เป็นศิลปะสมัยอู่ทองมีพระพักตร์สี่เหลี่ยมดูเคร่งเครียดจนชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อแก่” ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ฯสามพระยาค่ะ......ส่วนพระพุทธรูปองค์ที่น่าสนใจในปัจจุบันก็คือ พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ลักษณะนอนขวางในวิหารหลังเล็ก..... ซึ่งใครที่มาไหว้พระที่วัดธรรมิกราชนั้นจะมีเมตมหานิยมและช่วยคุ้มครองรักษาโรคภัยอันตรายให้กับตัวเราค่ะ


6.วัดสมณโกฏฐาราม

ปัจจุบัน คือ "วัดราษฏร์" ค่ะ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยเจ้าพระยาโกษา (เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษา (ปาน) ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช..... วัดนี้มีพระปรางค์องค์ใหญ่งดงามมากนะคะ รูปทรงสัณฐานแปลกตากว่าที่อื่น สันนิษฐานว่าเลียนแบบมาจากวัดเจดีย์เจ็ดยอด เมื่อคราวที่เจ้าพระยาโกษา (เหล็ก) ไปตีเมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2205 ภายในอุโบสถมีพระประธานเก่าแก่ซึ่งสร้างสมัยอยุธยา เป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปค่ะ



7.วัดพุทไธศวรรย์

วัดพุทไธศวรรย์ว่ากันว่าไหว้พระวัดนี้แล้วจะอยู่ยงคงกระพันค่ะและยังเติบโตในหน้าที่การงานรวมไปถึงเด่นเรื่องของการขอพรการสอบเข้าทหารตำรวจด้วยค่ะ...... วัดนี้สร้างขึ้นบริเวณ“ตำหนักเวียงเหล็กหรือเวียงเล็ก”ซึ่งเป็นตำหนักที่ประทับเดิมของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง......ภายในวัดพุทไธศวรรย์มีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่ศิลปะแบบขอมที่มีสีขาวโดดเด่นมองเห็นแต่ไกล มี “หลวงพ่อดำ”เป็นองค์พระประธานของวัดค่ะ



8.วัดธรรมาราม

 “วัดธรรมาราม” วัดนี้มีอายุ 400 กว่าปีแล้ว ใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฎหลักฐานค่ะ..... สำหรับวัดนี้เมื่อไปไหว้พระแล้วตามความเชื่อก็ว่ากันว่าจะมีมงคลด้าน ศีล สมาธิ และปัญญาในการดำเนินชีวิตนะคะ ..... ที่วัดธรรมารามยังมีของดีอีกอย่าง นั่นก็คือ “ต้นโพธิ์” จากศรีลังกา ซึ่งเป็นหน่อจากต้นโพธิ์ต้นที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีอายุเก่าแก่กว่าสองพันปีปลูกอยู่ในวัดด้วยค่ะ



9.วัดตูม

วัดตูมอยู่ ริมถนนอยุธยา-อ่างทอง ห่างจากตัวเมืองอยุธยาประมาณ 5-6 กิโลเมตรค่ะ.....  เป็นวัดโบราณ สร้างมาก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และเคยเป็นวัดร้างมาครั้งหนึ่งเมื่อคราวเสียกรุงใน พ.ศ.2310 จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 1 จึงได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นอีก ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดนี้หลายครั้งค่ะ .....สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ พระพุทธรูปซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฎ (หน้าผาก) เปิดออกได้และพระเกศมาลาถอดได้ ภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอ มีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลาเหมือนหยาดเหงื่อ..... เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน สามารถรับประทานได้โดยปราศจากกอันตรายใดๆ และไม่แห้งขาดหาย..... พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่อง ปางมารวิชัย นามเดิมของท่านคือ "หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์" เรียกกันเป็นสามัญ คือ "หลวงพ่อสุข" สร้างสมัยใดไม่ปรากฎตำนาน เป็นพระทรงเครื่องแบบมหาจักรพรรดิ์ราชาอธิวาสสวมมงกุฎ มีกุณฑลทับทรวง สังวาลพาหุรัดประดับด้วยเนาวรัตน์ ประทับนั่งขัดสมาธิ พระพุทธรูปองค์นี้จะเปิดเศียรพระทุกวันที่ 1 ของเดือนค่ะ


จบแล้วคร้า ไหว้พระ9วัดอยุธยา เพื่อนๆก็จะกลับบ้านด้วยความสุขใจ อิ่มบุญ และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยไปด้วยในตัว แถมความมีสิริมงคลในชีวิตกลับมาด้วย .... ลองหาเวลาว่างๆชวนคนในครอบครัว ออกไปเที่ยวอยุธยา ใกล้ๆแค่นี้เอง แล้วเพื่อนๆจะแสนประทับใจอย่างที่แม่หมอเคยรู้มาแล้วแน่นอนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

Powered By Blogger