สวัสดีค่ะเพื่อนๆขา....

แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้นยังคงเป็นเพื่อนร่วมทาง(การลงทุน)เพื่อนๆเหมือนเดิม โดยนำเสนอ หุ้นมีข่าว เช้าบ่าย ค่ำ อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดวัน ตลอดคืน .......แถมวันเสาร์มีเสริมบารมีนักลงทุนมานำเสนอเพื่อความเฮงด้วยนะคะ .... ส่วนวันอาทิตย์เป็นความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในหัวข้ออ่านหมากตลาดหุ้นค่ะ .... สำหรับข่าวเรียลไทม์ ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะสมาชิคเท่านั้นนะคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดต่อขอเป็นสมาชิคได้ที่ magicstocknews @gmail.com หรือ 086-8673392 ค่ะ


*

วันเสาร์

8กลุ่มอุตสาหกรรมเด่นปี54 และหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่ม

กู๊ดมอร์นิ่งวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน2010ค่ะเพื่อนๆ ....... เผลอแผล๊บเดียวก็จะสิ้นปีซะแล้ว ฝรั่งตาน้ำข้าว ขาใหญ่ในตลาดไทยสงสัยใกล้เตรียมตัวแพ๊คกระเป๋ากลับไปจิงเกิลเบลล์กันแล้วแหละค่ะ.....   คงจะปล่อยให้พี่ไทยลุ้นตัวโก่งว่าจะปิดสิ้นปียืน1000จุดได้รึเปล่า หรือจะเหินฟ้า กลับไปทำนิวไฮ 1055 จุดได้  พูดแล้วเหนื่อยค่ะ แม้จะมีความหวังเล็กๆกับเม็ดเงิน LTF RMF ก็ตาม  ......  เพราะสารพัดความกังวลได้เข้ามาเยือนใหม่ ทั้งเรื่องการเมือง ต่างประเทศ โอ๊ย ขึ้นก็กลัว ลงก็กลัว ก็พวกเราชาวแมงเม่านี่คะ ไม่กลัวซิเป็นเรื่องแปลกเนอะคะ คริคริ  ........... วันนี้แม่หมอก็เลยจะชวนเพื่อนๆ มองข้ามช็อตไปปีหน้ากันดีกว่า เรามาดูมุมมองของโบรกเกอร์ที่เค้ามองรายอุตสาหกรรมกันว่ามีแนวโน้มอย่างไร และตัวไหนเป็นตัวเด่นในกลุ่ม( แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาเป้าหมายอีกครั้งนะคะ เนื่องจากข้อมูลนี้ น่าจะเป็นช่วงการวิเคราะห์ก่อนประกาศกำไรไตรมาส3ทั้งหมดค่ะ แต่ก็สามารถอ่านเป็น guide line ได้ค่ะ) ......... เริ่มกันเลยนะคะ

กลุ่มเกษตรและอาหาร โดยบล.ฟิลลิป

ภาพรวมปี53คาดจะขยายตัวมากกว่า20%YOY โดยมี STA CPF ขยายตัวสูงสุดในกลุ่ม ภาพรวมกลุ่มรับผลบวกจากปัญหาโรคระบาดที่เกิดกับประเทศคู่แข่ง  น้ำมันรั่วที่แมกซิโก อากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ผลผลิตโลกลดลง และคำสั่งซือ้มากขึ้น รวมถึงรับผลบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ปรับขึ้น ...... แนวโน้มปี54 คาดว่าปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจะยังทำให้กลุ่มนี้น่าสนใจ  ..... แนะนำ ลงทุนปกติ  top picks คือ STA GFPT

CPF ราคาพื้นฐาน 25.50 บาท คาดกำไรปี53โต30%YOY  กลยุทธในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนการขายกลุ่มอาหารมากขึ้นเพื่อให้ผลการดำเนินงานมีเสถียรภาพ ค่าเงินบาทที่แข็งส่งผลกระทบไม่มากนัก

STA ราคาพื้นฐาน 28.50 บาท เป้นผู้ส่งออกยางายใหญ่อันดับ1ของโลกมีส่วนแบ่งการตลาด 7.5% มีแผนนำหุ้นไปจดทะเบียนที่ตลาดสิงคโปร์  พีอีเพียง6เท่าในปี53  จากภาวะผู้ซือ้ที่มากขึ้น ในขณะที่ผู้ผลิตมีเพียง3-4ประเทศ ยังเอื้อต่อผลการดำเนินงาน  คำสั่งซือ้ในกลุ่มยางล้อมากขึ้นทำให้อัตรากำไรมีเสถียรภาพ และทำให้STA มีกำไรโตติดต่อกัน

GFPT ราคาพื้นฐาน 11.20 บาท ปี53 คาดกำไรขยายตัวเพียง8%YOY จากราคาเนื้อสัตว์ที่ทรงตัว แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี54จะกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังดครงการร่วมทุนของ GFPTและนิชิเรญี่ปุ่นจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส4/53

KSL ราคาพื้นฐาน 11.10 บาท  คาดกำไรปี53จะลดลงมากถึง77%YOY แม้จะได้รับผลดีจากการที่ราคาน้ำตาลทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กลับได้รับผลกระทบจากการทำสัญญาล่วงหน้าที่มากไป อัตราผลผลิตที่ต่ำกว่าคาด และต้นทุนการผลิตที่สูง รวมถึงขาดทุนจากการทำอนุพันธ์ปนะมาณ995ล้าน  คาดปี54จะกลับมาขยายตัวก้าวกระโดดอีกครั้ง จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการบ่อพลอย ลาวและกัมพูชา และราคาขายที่มีเสถียรภาพมากขึ้น คาดราคาน้ำตาลตลาดโลกจะทรงตัวระดับสูง

TVO ราคาพื้นฐาน 25.25 บาท  กำไรก่อนรายการพิเศษจะเพิ่ม56%YOY แต่กำไรสุทธิจะลดลง9%YOY จากผลกระทบราคาขายที่ลดลงในครึ่งปีแรก แต่คาดจะเห็นการฟื้นตัวในครึ่งปีหลังเป็นต้นไปหลังใช้กำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่  แนวโน้มปี54 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากการใช้กำลังการผลิตเพิ่ม ต้นทุนลดและได้รับสิทธิทางภาษี เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในอัตราสูง คาดปี53จะจ่าย1.40 บาท ต่อหุ้น

TUF ราคาพื้นฐาน63 บาท  คาดปี53จะขยายตัวเพียง6%YOY จากราคาผลิตภัณฑ์หลักคือทูน่าที่ลดลง เงินบาทที่แข็งขึ้น  การซือ้กิจการของ MW 600ล้านยูโร จะช่วยให้ขยายตลาดยุโรปได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กิจการ ทำให้ขึ้นเป้นอันดับ1ผู้ผลิตทูน่าในตลาดโลก

CFRESH ราคาพื้นฐาน 5.50 บาท ปัญหาโรคระบาดกุ้งและอากาศที่เปลี่ยนส่งผลให้ผลผลิตในตลาดโลกลดลง โดยเฉพาะจากคู่แข่งรายใหญ่คือ จีน อินโดนีเซีย และบราซิล คาดปี53จะขยายตัว11% YOY แต่บาทแข็งจะกดดัยทำให้อัตรากำไรลดลง เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และอัตราการจ่ายสูงคาดปันผล0.42บาทต่อหุ้น

กลุ่มพลังงาน โดย บล.กิมเอ็ง

น้ำมันและก๊าซ   EIAคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปีนี้จะเพิ่มขึ้น4.9%YOYตามการฟื้นตัวของศก โลกและราคาน้ำมันดิบครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวมาอยู่ที่79เหรียญต่อบาเรล และเพิ่มเป็น84เหรียญในปีหน้า ประเมินการจำหน่ายก๊าซในปีนี้จะเติบโต10%YOY จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีนี้ปรับตัวเพิ่ม8.9%YOY

 PTT เป็นหุ้นเด่นจากโรงแยกก๊าซ6จะเริ่มเปิดดำเนินการผลิตได้ในเดือนพย จะทำให้กำไรปีหน้าเติบโตได้19%YOYส่วนแบ่งผลกำไรธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีคาดว่าฟื้นตัว การควบรวมบริษัทในเครือคาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นปีหน้า การลดสัดส่วนการถือหุ้น SPRC จาก36% เหลือ25%ในปีหน้าผ่านการจดทะเบียนใน ตลท จะเป็นปัจจัยบวก   ให้ราคาเป้าหมาย355บาท ( ผลกระทบกรณีมอนทาราอาจส่งผลต่อราคาหุ้นประมาณ18บาท)

โรงกลั่น  ปีนี้ผลการดำเนินการอาจยังไม่ดี จากกำลังการผลิตใหม่ของโรงกลั่นและอะโรเมติกส์ทยอยออกมาในตลาดปีนี้(จากจีนและอินเดีย) ทำให้ค่าการกลั่นและ spread marginไม่ดี โดยค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์ครึ่งปีแรกเฉลี่ยที่3.95เหรียญจากปีก่อน4.74เหรียญ  spread margin ของพาราไซลีนเทียบกับนาฟทาก็ปรับลง27%จาก387เหรียญเหลือ281 เหรียญ แต่ spread marginของเบนซีนกลับฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิกส์และยานยนต์    ประเมินว่าค่าการกลั่นและspread margin จะฟื้นตัวในปีหน้าตามศก โลก  โดยประเมินค่าการกลั่นไว้ที่ 4.5 เหรียญ และ spread margin ที่ 400 เหรียญ

TOP เป็นหุ้นเด่น จากผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส3 แนวโน้มผลกำไรปีหน้าคาดโต26%YOY เป้าหมายที่58บาท

ถ่านหิน  มาตรการควบคุมถ่านหินในจีนและการประกาศเก็บภาษีทรัพยากรธรรมชาติจะทำให้ผู้ผลิตลดปริมาณการผลิตลงจึงทำให้คาดว่าจะเห็นจีนนำเข้าถ่านหินเพิ่มซึ่งน่าจะช่วยให้เห็นราคาถ่านหินโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปีนี้ราคาถ่านหินสามารถยืนได้แข็งแรงระดับ90-100 เหรียญต่อตันเทียบกับปีที่แล้ว60-80เหรียญ

BANPU เลือกเป็นหุ้นเด่นราคาเป้าหมาย810บาท จากปีหน้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายถ่านหินเพิ่ม17%YOY มีการขยายท่าเทียบเรือ Bontangจาก11.5ล้านตันเป็น20ล้านตัน กำไรไตรมาส3สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการจำหน่ายหุ้นITM   หากซือ้เหมืองCentenial coal มาได้100%จะช่วยเพิ่มปริมาณถ่านหินสำรองได้70%

กลุ่มเทคโนโลยี่ โดย บล.เคทีซิมิโก้

ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์  ไตรมาส3จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ตาม seasonal pattern  แต่กลุ่มส่งออกจะได้รับผลกระทบจากบาทแข็ง และอัตราการเติบดตของชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์กำลังจะถดถอย จากดัชนีชี้วัด 1  US Manufacturing ISM 2 สัญญานปรับตัวลงของ Semiconductor book to bill Ratio 3 การลดลงของอัตราการขยายตัวของการใช้กำลังการผลิตภาคส่งออกชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกส์  ซึ่งดัชนีเหล่านี้พ้นจุดสูงสุดไปแล้วคาดอัตราการอ่อนตัวลงจะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส4ปีนี้ถึงไตรมาส1ปีหน้า

 DELTA แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย30.50 บาท มีรายได้จากสินค้าที่อ้างอิงดัชนีชี้นำ40% ขณะที่อีก60%มาจากสินค้าประเภทโทรคมนาคม และการที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก DC Fan  ในอุตสาหกรรมรถยนต์และอุปกรณ์แปลงไฟของแผงพลังงานแสงอาทิตย์น่าจะช่วยให้รายได้เติบโตต่อได้ในไตรมาส4

SMT แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย13.70 บาท เป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบน้อยสุดต่อดัชนีชี้นำ จากสินค้าหลักอยู่ในหมวดที่มีการเติบโตสูง เช่น หน้าจอสัมผัสของโทรศัพท์มือถือ เซ็นเซอร์เกี่ยวกับความปลอดภัยของรถยนต์ โปรเจคเตอร์แบบพกพา และเป็นบริษัทเดียวที่ส่งออกและนำเข้าเป็นสกุลเงินดอลล่าร์เท่ากันจึงไม่ได้รับผลกระทบเรื่องบาทแข็ง

สื่อสาร และสารสนเทศ  การประมูล3จีไม่มีทางแล้วเสร็จในระยะเวลาอันใกล้ คำสั่งของศาลปกครองสูงสุดมีผลให้กทช ต้องยกเลิการประมูล3จึจนกว่าศาลปกครองกลางจะมีคำพิพากษาตามคำฟ้องของบมจ กสท โทรคมนาคม กี่ยวกับอำนาจของกสช แม้ท้ายที่สุด ศาลจะพิจรณาว่า กทช มีอำนาจในการจัดสรรคลื่นความถี่ได้ นัยว่ากทชน่าจะหมดสิทธิในการออกใบอนุญาต3จีไปแล้วโดยปริยาย ขณะที่ช่องทางการแต่งตั้ง กสทชแม้รัฐจะผลักดัน พรบกสทชให้ทันในสมัยประชุมนี้แต่ก็คาดว่าการเปิดประมูลอย่างเร็วสุดเป็นปลายปี54  การปรับตัวของราคาสะท้อนเรื่อง3จีไปเรียบร้อยแล้ว ความสนใจของตลาดกลับมาอยู่ที่2จีจากการเติบโตต่อเนื่อง 1 การเพิ่มการใช้บริการ voice และการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้บริการข้อมูล 2 EBITDA มาร์จิ้นยังคงอยู่ในระดับดีจากต้นทุนที่ลดลง มีความเป็นไปได้ว่าจะกลับมาจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า50%

ADVANC แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 96บาท ไม่รวม3จี คาดอัตราการเติบโตอยู่ระดับปานกลาง 13% ในปี53 และ3%ในปี54 อัตราผลตอบแทนจากปันผลสุง กระแสเงินสดแข็งแกร่ง อัตราหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือเกือบศูนย์ งบลงทุนเป็นไปอย่างจำกัด

DTAC ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 50 บาทไม่รวม3จี ผลประกอบการที่ดีในระยะสั้นจะเป็นตัวผลักดันราคา คาดกำไรปี53 โตถึง38% รวมกำไรพิเศษจากการบันทึกค่าIC ย้อนหลังจากการขายทรัพย์สิน แต่คาดกำไรจะลดลงเล็กน้อย 3%ในปี54

กลุ่มธุรกิจการเงิน โดย บล.เกียรตินาคิน

ธนาคารพาณิชย์ เริ่มฟื้นตัวตามภาวะศก ช่วงปลายปีสินเชื่อจะเพิ่มสูงขึ้นจากภาคการเกษตร และภาคธุรกิจที่มีออร์เดอร์เข้ามามากในช่วงปลายปี  แต่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ธนาคารที่ปรับอัตราดอกเบี้ยฝากประจำได้รับผลกระทบในแง่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลง ในส่วนอนาคต มองว่าธนาคารจะได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐบาล และศก ที่คาดฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ต้องติดตาม การที่ธปท และรัญบาลพยายามจะลดส่วนต่างของดอกเบี้ยให้น้อยลง ลดรายไ้ค่าธรรมเนียมที่คิดกับลูกค้า แต่ธนาคารก็พยายามเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมาชดเชย

ธุรกิจเงินทุน  การที่ธปท ให้ธนาคารพาณิชย์ทำธุรกิจได้หลากหลายขึ้นกระทบต่อบริษัทเงินทุนโดยตรง ทำให้ทำธุรกิจได้ยากขึ้น ต้นทุนเงินทุนสูงกว่า ในอนาคต บริษัทเงินทุนจำเป็นต้องทำธุรกิจที่มีความต่างและต้องการความชำนาญเฉพาะ หรือาจหาพันธมิตรทางธุรกิจ หรืออาจถูกควบรวมกิจการ

ธุรกิจหลักทรัพย์ การติดค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันไดเริ่มส่งผลให้คอมมิสชั่นเฉลี่ยน้อยลง แต่การที่เงินทุนต่างประเทศไหลเข้าส่งผลให้ปริมาณการซือ้ขายปรับสูงขึ้นส่งผลดีต่อการดำเนินงานทุกบริษัท คาดมูลค่าซือ้ขายยังคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงปี54  ปี55 จะมีการเปิดเสรีคอมมิชชั่นจะทำให้ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยต่ำลงไปอีกซึ่งบริษัทตำเป็นต้องกระจายรายได้ไปยังธุรกิจอื่นเพิ่มเติมเช่นวาณิชธนกิจ หรือหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาเสริม

BBL แนะนำซือ้ราคาเหมาะสม 179 บาท  ในปีนี้BBLจะมีรายได้จากการขายหุ้นACL  เป็นธนาคารขาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งเรื่องสินเชื่อขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์สูงเป็นอันดับ1 มีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงได้มาก มีสัดส่วนสำรองต่อNPLสิ้นไตรมาส2/53สูงถึง129%

BAY แนะนำซือ้ ราคาเหมาะสม 27.30บาท จากการเข้าซือ้กิจการของAIG และGEMT ในปีก่อนทำให้สินเชื่อ ขยายตัวขึ้นอย่างมาก  สินเชื่อที่โอนมาส่วนมากเป็นรายย่อย และสินเชื่อเช่าซือ้ที่ให้ผลตอบแทนสุง

SCB แนะนำซือ้ ราคาเหมาะสม 118 บาท สินเชื่อชะลอตัวลงช่วงต้นปีจากการทำธุรกิจที่ระมัดระวังขึ้น แต่จากการที่ศก.กลับมาฟื้นตัวชัดเจนทำให้สามารถกลับมาเติบโตอีกครั้งโดยเน้นสินเชื่อรายย่อย และเป็นเจ้าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย

KTB แนะนำซือ้ ราคาเหมาะสม17.80 บาท เป็นธนาคารที่ถือหุ้นโดยกองทุนฟื้นฟุและเป็นธนาคารที่รัฐใช้เป็นตัวกลางในการส่งผ่านนโยบายการเงิน ทำให้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นศก สินเชื่อที่เติบโตมากในปี53ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อที่ปล่อยให้กับหน่วยงานภาครัฐ

KBANK แนะนำซือ้ราคาเหมาะสม 130 บาท  มีจุดเด่นเรื่องสินเชื่อ SME ที่ความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูง  มีการบริหารความเสี่ยงได้ดี NPLเพียง2.97%  เป็นธนาคารที่มีสัดส่วนออมทรัพย์มากสุด

กลุ่มบริการ โดย บล.ฟิลลิป

พาณิชย์  ปี2554 มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อจาก 1. ผู้ประกอบการอยู่ระหว่างการขยายสาขาประมาณ3-4แห่งสำหรับ modern trade และ450-500 สาขาสำหรับร้านค้าสะดวกซื้อ 2.ภาวะศก ที่ขยายตัวทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาจับจ่ายผ่านmodern trade และร้านค้าสะดวกซือ้มากขึ้น อัตราการเติบโตต่อสาขาเดิมอยู่ในเกณฑ์ดี 3.อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ดียอดขายที่เติบดตจะเพิ่มอำนาจต่อรองกับ supplierได้

BIGC ราคาพื้นฐานปี54ที่71บาท ปี52 มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ2 รองจากเทสโก้โลตัส มี68สาขาใน40จังหวัด โดยเลืออีก37จังหวัดที่ยังไม่มีสาขามีแผนเปิด2สาขาในไตรมาส4นี้และอีก4สาขาในปีหน้าการชนะประมูลคาร์ฟูร์จะทำให้มีมาร์เก็ตแชร์ขึ้นมาใกล้เคียงกับเทสโก้โลตัส คาดการณ์กำไรปีหน้าโต10.3%

CPALL ราคาพื้นฐานปี54ที่40 บาท มุ่งเน้นเป็นร้านอิ่มสะดวก อัตรากำไรดีและสร้างอัตราหมุนเวียนของยอดขายสูง ขยายสาขาในต่างจังหวัด มีเป้าหมายเปิดให้ครบ7000แห่งในปี2557 จากปัจจุบัน5511แห่งเพิ่มปีละ450แห่งคาดการณ์กำไรปีนี้โต33.4%

สื่อและสิ่งพิมพ์  รายได้กลุ่มนี้มาจากงบโฆษณาและงบการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าซึ่งขึ้นกับศกประเทศเป็นหลักซึง8เดือนแรกของปีโต12.52% คาดการงบโฆษณาปี53โต12-15%YOY และโตต่ออีก5-10%ในปีหน้าส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาของสื่อต่างๆ

MCOT  ราคาเหมาะสมปี54ที่32.50บาท ครึ่งปีแรกกำไรเติบโต11.79% ทั้งปี53คาดการณ์กำไร1553.90ล้านเป็นผลตอบแทนจากBEC405ล้าน ในปี54คาดกำไร1484.12ล้านเพราะไม่มีการบึนทึกรายการพิเศษ

AS ราคาเหมาะสมปี54ที่14บาท เป็นผู้นำเกมออนไลน์ในประเทศและภูมิภาคให้บริการในไทย มาเล สิงคโปร์และให้ลิขสิทธิ์บริษัทที่เวียดนามอนาคตจะขยายตลาดไปอินดดนีเซียและฟิลลิปปินส์ คาดการณ์กำไรปี53โต56.82%YOY

ขนส่งและโลจิสติกส์ การขนส่งทางอากาศที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการเมือง และผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด แต่ปัญหาที่คลี่คลายและการเข้าสู่ high season จะทำให้กลับมาเติบโตได้อีก ..... การขนส่งทางบก จะอิงกับศกประเทศเป็นหลัก การใช้ทางด่วนเริ่มกลับมาฟื้นตัว ส่วน BTS BMCL คาดจะโตก้าวกระโดดหากโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆเปิดดำเนินการ..... การขนส่งทางทะเล อิงศก โลกเป็นหลัก แต่จากช่วงที่อุตสาหกรรมดีมีการต่อเรือมากขึ้นจึงกดดันค่าระวางเรือที่จะทำให้ปรับขึ้นได้จำกัดใน1-2ปีข้างหน้า

AOT ราคาเหมาะสมปี54ที่46.75บาท 1-2ปีที่ผ่านมาราคายังไม่ได้สะท้อนผลกำไรที่แท้จริง คาดปี54จะได้เห้นการฟื้นตัวเด่นชัดและหากไม่มีการต่อมาตรการช่วยเหลือออกไปอีกก็จะทำให้รายได้ฟื้นตัวได้เร็ว

RCL ราคาเหมาะสมปี54ที่ 19.90บาท  กลุ่มคอนเทนเนอร์และเทกองจะอิงกับภาวะศกโลกเป็นหลัก IMF คาดการณ์โต4.3%ในปี54 แม้ RCL จะได้ผลกระทบจากsupplyที่เพิ่มแต่demandที่ฟื้นตัวในแถบจีน อินเดียส่งผลดีเพราะเป็นพื้นที่การให้บริการเป็นหลัก ไตรมาส3/53กลับมามีกำไรหลังขาดทุนติดกัน8ไตรมาส

การแพทย์  ปีนี้ไตรมาส3-4ทิศทางกลุ่มการแพทย์ดีขึ้นผู้ป่วยต่างประเทศมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการ และไตรมาส3 เป็น high season  คาดกำลังซือ้คนในประเทศมากขึ้นส่งผลบวก

BGH ราคาเหมาะสมปี54ที่ 37บาท  ได้เปรียบคู่แข่งเพราะมีสาขาในเครือ19แห่ง คาดปี54กำไรเติบโต16.74% จากผู้ป่วยต่างประเทศกลับมาใช้บริการและการเติบโตของผู้ป่วยในประเทศในเมืองใหญ่

KH ราคาเหมาะสมปี54ที่6.8บาท ปรับกลยุทธเพิ่มมาร์จิ้นให้ธุรกิจ ยกเลิกการให้บริการบัตรทองโรงพยาบาล3แห่งในเครือและคลีนิคอีก12แห่ง คาดอีก2ปีจะเห็นการเติบโตอย่างเด่นชัดจากการเพิ่มของลูกค้าเงินสดที่ค่อยเป็นค่อยไป มีโอกาสที่รายได้จะเพิ่มจากกลุ่มข้าราชการที่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้

กลุ่มอุตสาหกรรม โดย บล.เกียรตินาคิน

คาดอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังผ่านวิกฤติปี51-52ไปแล้วและปี53-57จะโตเฉลี่ย11% ปัจจัยสำคัญในการผลักดันคือ การฟื้นตัวของศกโลกและโอกาสจากโครงการอีโคคาร์   ยอดเติบโตของยานยนต์ไทย7เดือนแรกของปี53โต97%จากปีก่อน คาดยอดผลิตรถยนต์ไทยแตะ 1.5-1.6ล้านคัน คาดยอดผลิตปีนี้จะโตกว่า50-60%

AH แนะนำซือ้ ราคาเหมาะสมปี53ที่18.34บาทคาดปันผล0.57บาท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ มีรายได้หลักจากการผลิตโครงรถกระบะให้กับอีซูซุ และAAT นิสสันและโตโยต้า นอกจากนั้นยังมีโรงงานผลิตที่จีนและคาดผลประกอบการปี53จะพลิกมากำไร381ล้านจากปีก่อนที่ขาดทุน109ล้าน

SAT แนะนำถือ ราคาเหมาะสมปี54ที่22.32บาท เป้นผู้ผลิตเพลาข้างอันดับ1ของประเทศ คาดปี53กำไรโต30%YOY

STANLY แนะนำซือ้ ราคาเหมาะสมปี54ที่ 216.28บาท ผู้ผลิตไฟส่องสว่างสำรับยานยนต์อันดับ1ของประเทศ มีความสามารถในการทำกำไรสูง ฐานะการเงินมั่นคงและไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย

TKT  แนะนำถือ ราคาเหมาะสมปี54ที่2.16บาท  ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีลูกค้าหลักคือ โตโยต้า  คาดกำไรปี53เติบโต99%YOY คาดปันผล 0.14บาท

SSI แนะนำทยอยซือ้ ราคาเหมาะสมปี54ที่2.20บาท ผู้ผลิตแผ่นเหล็กรีดร้อนรายใหญ่ของประเทศ  คาดการเติบโตเป็นไปตามความต้องการใช้ที่เพิ่มตามงบประมาณภาครัฐและการฟื้นตัวของศก  การเข้าซือ้TCP เป้นโรงงานผลิตเหล็กแท่งแบบครบวงจรน่าจะช่วยเพิ่มแหล่งซือ้วัตถุดิบและเพิ่มศักยภาพของฟลิตภัณฑ์ บริษัทใช้กลยุทธการขยายธุรกิจแบบ Vertical Integration จากแผ่นเหล็กรีดร้อนสู่วัตถุดิบ

กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส

การบริโภคอยู่ในระดับสูงกว่าเกิดวิกฤติ8%  ปัจจัยหนุนการบริโภคในประเทศคือการฟื้นตัวของศกตามแผนกระตุ้นระยะที่1และ2ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น 44.9%YOY จากอุปสงค์เพิ่มแต่อุปทานตึงตัว  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นอีกครั้งหลังการเมืองคลี่คลาย อัตราการว่างงานที่ต่ำมาก คาดการบริโภคปี54จะขยายตัวต่อ3.8%จากปีนี้5.2%

MODERN แนะนำซือ้ราคาพื้นฐาน59บาท  คาดกำไรสุทธิ 2H53 แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบ HOH เราะบริษัทมี baglogรอส่งมอบสูงถึง1พันล้าน  คาดยอดขายปี53โต21% แนวโน้มปี54ยังไปได้ดี คาดยอดขายเฟอร์นิเจอร์สำนักงานยังขยายตัวได้ดี จะบันทึกกำไรการขายหุ้นบริษัทร่วมก่อนภาษี 68.6ล้านในไตรมาส4/53 จ่ายปันผลสม่ำเสมอ dividend yeild 9%

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง โดย บล.เอเชียพลัส

อสังหาริมทรัพย์  พรีเซล2Q53 ยังสูงถึง 3.8หมื่นล้าน แม้เหตุการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ พรีเซลสูงสุดคือ PS สามารถสร้างนิวไฮได้ที่ 1.14หมื่นล้าน รองมาคือ LH SIRI   แบคล็อคสร้างนิวไฮที่สูงกว่า1แสนล้าน หลักประกันการเติบโต แบคล็อคสูงสุดคือ PS2.26หมื่นล้าน ตามมาด้วย SPALI AP  กำไรในไตรมาส4คาดสูงขึ้น

SPALI  fair value 19.06บาท มีความพร้อมสำหรับการเติบโต แบคล็อคสูงมีมูลค่าโครงการคงเหลือสำหรับขาย 1.2หมื่นล้านและมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก1.3หมื่นล้าน มีจุดเด่นที่มีประสิทธภาพการทำกำไรสูง profit margin สูงกว่า20%

LPN fair value 13.32บาท คาดหมายการเห็นจุดสูงสุดใหม่ของกำไรในไตรมาส4/53 เนื่องจากมี3โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอน แบคล็อคคงค้าง1.37หมื่นล้าน

AP fair value 9.20บาท 2H53จะเปิดตัวโครงการใหม่5คอนโดใหม่จะช่วยเพิ่มพรีเซลแบคล็อคเพิ่มเป็น2หมื่นล้านสิ้นไตรมาส3/53 การเติบโตของกำไรปี54 จะต้องพื้งพาโครงการแนวราบเพิ่มส่วนคอนโดจะกลับมาสร้างการเติบโตของกำไรในปี55

SC fair value 21.68บาท  โครงสร้างรายได้มีทั้งรายได้จากการเช้่าและการขายทำให้ลดความผันผวนของกำไร PER 5 เท่า ส่วนลดจากbook 30% dividend yeild7%

PS fair value 27.35บาท สามารถสร้างนิวไฮให้กับยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง มีแบคล็อคสูงสุดในอุตสาหกรรมที่2.2หมื่นล้าน  โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่ง ควรทยอยซือ้เมื่ออ่อนตัว

นิคมอุตสาหกรรม ราคาสะท้อนยอดขายที่ดิน2H53ไปแล้ว ยอดขายเติบโตตามsentimentการลงทุนจากต่างชาติ 4Q53 กำไรจะสูงสุดในปีนี้ แต่ปี54จะมีความผันผวนของรายไตรมาส การปรับเปลี่ยนวิธีบันทึกรายได้ทางบัญชีของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รวมถึงนิคมอุตสาหกรรม มาเป้นมาตรฐานทางบัยชีฉบับที่37ในปี54 ทำให้การบันทึกรายได้จากการขายที่นิคมอุตสาหกรรมจะเกิดขึ้นเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้า จากเดิมบันทึกตามสัดส่วนงานที่แล้วเสร็จ บริษัทที่ได้รับผลกระทบคือ AMATA รองมาคือ HEMRAJ ส่วน ROJNA ได้รับผลกระทบน้อยสุด

ROJNA fair value 14.90บาท แม้กำไรปี53ของกลุ่มจะฟื้นตัว แต่มีเพียงROJNA ที่ราคายัง laggard คาดผลประกอบการปี54จะเติบโตอย่างดดดเด่นมีโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

Powered By Blogger