เหตุผลข้อแรก
การที่ฝรั่งเข้ามาซื้อเป็นการซื้อแบบ Budget ซื้อทั้งภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเกิดใหม่
ถามว่าฝรั่งไม่กลัวว่าบ้านเราจะแย่เหรอ น้ำท่วมนิคม 7 แห่ง ท่วมใจกลางกรุงเทพอีก มีผลต่อ GDP ในปีหน้านะ สำหรับข้อนี้ฝรั่งมองในมุมกลับคือ การที่ไทยเสียหายมากขนาดนี้กลับเป็นข้อดีในเรื่องการหมุนเวียนเงินสดกล่าวคือ ไทยต้องมีค่าในการฟื้นฟู หรือ Reconstruction จากการอัดฉีดของรัฐบาล มองในมุมกลับจริงๆ เงินหมุนในระบบมากขึ้น ถึงมือประชาชนมากขึ้น เกิดการซื้อขาย กระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว
ส่วนเรื่อง Commodities Inflation ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่มันจะมีแนวโน้มขึ้นทุกปี แววมาจากแดนไกลว่าน้ำมันจะขึ้นราคาอีกแล้ว
แล้วถ้าถามว่าน้ำลดฝรั่งจะขายไหม ก็ไม่แน่นะ อาจจะมีการ Sell on fact แรงๆอีกสักรอบก็ได้ก่อนที่จะขึ้นทะลุพันจุดอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าถามอีกว่า ครั้งนี้จะเป็นเหมือนช่วงซับไพลม์ไหม คิดว่าไม่น่าจะเป็นนะ ลองสังเกตตรงที่ว่า ตอนวิกฤตซับพลาม ฝรั่งเทขายแบบทุกราคา กองทุนสถาบันไม่ได้ไปรับเลย มีแต่รายย่อยที่ไปรับ ผลคือติดดอย แต่ครั้งนี้เป็นเหมือนผลัดกันโยน ฝรั่งทุบ สถาบันและกองทุนก็พร้อมรับ ครั้งนี้กองทุนสถาบันจะทุบ ฝรั่งก็รับอีก อีกอย่างความคิดส่วนตัวนะ กองทุนโปรโมตกองทุนพวก LTF RMF เยอะมาก ถ้าปล่อยให้ดัชนีตกไปมากกว่านี้ Performance จะเสีย ไม่มีึความน่าเชื่อถือ (ที่มาของ Window Dressing)
เหตุผลข้อสอง
ต่างชาติชอบความชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนพร้อมถอนการลงทุนทันที
เหมือนตอนที่เสื้อเหลืองชุมนุมแถวราชประสงค์ ฝรั่งซื้อหนัก เพราะรู้ว่าชุมนุมกันแล้ว เหมือนกับสถานการณ์น้ำท่วม ต่างชาติก็รับรู้ว่า เออ ท่วมแล้วนะ อีก1-2 เดือนจะเข้าสู่สภาวะปกติและฟื้นฟู มันชัดเจนไง
ตอนที่อเมริกาจะบุกอิรัก ช่วงกำลังวางแผน ดาวโจน ยุโรปตกกันระนาว แต่พอยกทัพบุก ยิงกัน หุ้นกลับขึ้นทันที เป็นเพราะมันชัดเจนอีกเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น