ในที่สุดการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้แล้วนะคะ .... ทุกสิทธิ์ทุกเสียงมีค่า เพื่อนๆอย่าลืมออกไปเลือกตั้งกันนะคะ และวันนี้แม่หมอก็มีของฝากเล็กๆน้อยๆ มาฝากเพื่อนๆ เป็นมุมมองของตลาดหลังการเลือกตั้งของกูรู ลองอ่านเล่นๆเย็นใจดูนะคะ
คุณชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ จาก บล.บัวหลวง...... มองว่า แม้หลังการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นี้เป็นต้นไป หลายฝ่ายมองว่าปัญหาการเมืองจะยังไม่คลี่คลายและอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย..... “นักลงทุนส่วนใหญ่มองปัญหาการเมืองไทยแม้จะยังไม่จบ มีปัญหาเสื้อหลากสีเกิดขึ้น และอาจจะมีการชุมนุมต่อต้าน แต่เชื่อว่า ถ้าเป็นการชุมนุมไม่เกิดความรุนแรง การซื้อขายในตลาดหุ้นยังสามารถเป็นไปอย่างปกติ”......... อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศและต่างประเทศจับตามองว่าพรรคการเมืองที่ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลจะมีนโยบายการดูแลภาคเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศอย่างไร เช่น การใช้มาตรการภาษี การดูแลภาคการลงทุนและการใช้งบประมาณรายจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการพื้นฐาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้การลงทุนมีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนโยบายภาษี เช่น การลดภาษีนิติบุคคล ที่หาเสียงไว้ หากนโยบายด้านเศรษฐกิจชัดเจนโอกาสที่จะเห็นหุ้นไทยปีนี้ 1,100-1,200 จุด เป็นไปได้สูง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม........แม้จะมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ ก็ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายว่าจะไม่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง แต่ความวุ่นวายจะต้องอยู่บนขอบเขตไม่เกิดความรุนแรง ส่วนปัญหาที่ต้องจับตานอกเหนือจากปัญหาในประเทศ คือ ปัจจัยนอกประเทศ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของสหภาพยุโรป (อียู) หรือการปรับพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสึนามิ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยลบสะท้อนต่อการลงทุนในปีนี้และอนาคต โดยภาพรวมเชื่อว่าการลงทุนผ่านตลาดหุ้นไทยแม้จะมีปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังมีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยเติบโตได้ดี
คุณปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ บล.ฟาร์อีสท์ ...... กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (4-8 ก.ค.) ว่า ตลาดน่าจะอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังจากตลาดเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาได้ ดังนั้นไม่ว่าพรรคใดจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ล้วนแต่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ ....... ส่วนจะปรับขึ้นได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงที่ได้รับว่าจะชนะขาดลอยหรือไม่ ถ้าช่วงห่างของคะแนนมีมาก ก็จะทำให้ดัชนีฯ ปรับตัวได้มากเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีในสัปดาห์หน้า แนวต้านอยู่ที่ 1,060 จุด แนวต้านถัดไป 1,080 จุด ส่วนแนวรับ 1030-1020 จุด....... กลยุทธ์การลงทุน หากคะแนนของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมีช่วงห่างมาก จะทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปได้มาก กรณีนี้แนะนำให้ซื้อแต่หากคะแนนของพรรคที่ชนะไม่ได้ทิ้งช่วงมาก แนะนำซื้อ โดยแนะนำหุ้นในกลุ่มขนาดใหญ่เพราะช่วง 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ราคาอ่อนตัวลง ขณะที่บริษัทมีมุมมองต่อผลประกอบการครึ่งปีหลังของกลุ่มดังกล่าวจะออกมาดี
คุณช่วงชัย นะวงศ์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ......... แสดงความเชื่อมั่นว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งจะมีทิศทางที่ดี ถึงแม้จะมีการคาดการณ์เกรงจะเกิดความวุ่นวายหลังเลือกตั้ง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่มีอะไร ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งก็ตาม ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยช่วงครึ่งปีหลังมองกันว่า จะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก จึงน่าจะเป็นจุดดึงให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อขายหุ้นไทยได้อีกครั้ง ...... "ภาวะตลาดหุ้นหลังเลือกตั้งน่าจะดี แม้ต่างชาติมีการประโคมข่าวว่า จะเกิดวุ่นวาย แต่ผมว่า ไม่วุ่นวายหรอก ผลการเลือกตั้งเป็นยังไง มันก็ต้องเป็นอย่างงั้น คงไม่มีใครที่จะออกมาสร้างหรือทำอะไรทันทีทันใด ผมคิดว่าภายในปีนี้คงจะไม่มีใครที่จะอ้างความชอบธรรม แล้วมาสร้างความวุ่นวาย พอผลการเลือกตั้งผ่านไป นักลงทุนต่างชาติก็จะเห็นว่า ไม่มีอะไร ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของเราในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก จะดึงนักลงทุนต่างประเทศกลับมาได้"
คุณเอกยุทธ อัญชันบุตร ....... หลังเลือกตั้งต้องคอยลุ้น อาจเกิดอาการ Sideway Down ประมาณ 5-8% ถ้าปชป.ชนะหุ้นจะตีกลับมายืนระดับ 1,300-1,500 จุด แต่ถ้าพท.ชนะได้ตั้งรัฐบาล หุ้นตกกระจายแน่ เพราะต้องเข้ามาเปลี่ยนนโยบายศก.ใหม่หมด ยังเชื่อ "การเมืองไม่สงบง่ายๆ"..... สำหรับทิศทางตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้ง "เอกยุทธ" ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยอาจเกิดอาการ Sideway Down ประมาณ 5-8% คาดว่าดัชนีคงยืนแถวๆ 960 จุด ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ชนะขาดลอย หุ้นไทยจะตีกลับมายืนระดับ 1,300-1,500 จุด แต่หากพรรคเพื่อไทยชนะได้จัดตั้งรัฐบาล "รับรองหุ้นไทยตกกระจาย" เพราะเขา (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ต้องเข้ามาเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายด้านต่างๆใหม่หมด เมื่อเป็นเช่นนั้นเชื่อได้เลยว่า "การเมืองไม่สงบชัวร์!" ตลาดหุ้นมีโอกาสลงไปเคลื่อนไหวในกรอบ 850-1,000 จุด...... เว้นเสียแต่ว่าพรรคเพื่อไทยสามารถพิสูจน์ได้ว่า นโยบายด้านต่างๆมีผลดีเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และไม่มีคนออกมาเดินขบวน ในระยะ "กลาง-ยาว" ดัชนีอาจขึ้นไป 1,200 จุดได้ เพราะพื้นฐานตลาดหุ้นไทย "ยังดีอยู่" แต่ความคิดเห็นส่วนตัว "ผมไม่เชื่อว่ามันจะสงบ"
ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เกี่ยวกับมุมมองตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง ส่วนของจริงจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องลุ้นกันในวันจันทร์หน้าละค่ะ ว่าแล้วแม่หมอขอตัวไปลุ้นโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ
ขอขอบคุณ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆขา....
แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้นยังคงเป็นเพื่อนร่วมทาง(การลงทุน)เพื่อนๆเหมือนเดิม โดยนำเสนอ หุ้นมีข่าว เช้าบ่าย ค่ำ อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดวัน ตลอดคืน .......แถมวันเสาร์มีเสริมบารมีนักลงทุนมานำเสนอเพื่อความเฮงด้วยนะคะ .... ส่วนวันอาทิตย์เป็นความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในหัวข้ออ่านหมากตลาดหุ้นค่ะ .... สำหรับข่าวเรียลไทม์ ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะสมาชิคเท่านั้นนะคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดต่อขอเป็นสมาชิคได้ที่ magicstocknews @gmail.com หรือ 086-8673392 ค่ะ
แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้นยังคงเป็นเพื่อนร่วมทาง(การลงทุน)เพื่อนๆเหมือนเดิม โดยนำเสนอ หุ้นมีข่าว เช้าบ่าย ค่ำ อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดวัน ตลอดคืน .......แถมวันเสาร์มีเสริมบารมีนักลงทุนมานำเสนอเพื่อความเฮงด้วยนะคะ .... ส่วนวันอาทิตย์เป็นความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในหัวข้ออ่านหมากตลาดหุ้นค่ะ .... สำหรับข่าวเรียลไทม์ ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะสมาชิคเท่านั้นนะคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดต่อขอเป็นสมาชิคได้ที่ magicstocknews @gmail.com หรือ 086-8673392 ค่ะ
nice blog :)
ตอบลบnice blog :)
ตอบลบ