- SET Index หรือดัชนีหุ้น คือตัวเลขที่วัดมูลค่าตลาดรวมโดยเทียบกับวันแรกที่เปิดทำการซื้อขายคือ30/4/2518 หลักๆก็เป็นการดูว่าภาพรวมของตลาดในแต่ละวันปรับขึ้นหรือปรับลงนั่นเองหละค่ะ โดยมีสูตรการคำนวณด้วยนะคะ
Bull- Bear Market ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยค่ะ นึกถึงกระทิงเวลาขวิดจะเงยหน้าขึ้น หมีเวลาตะปบจะก้มลง นั่นก็คือตลาดกระทิงเป็นตลาดแนวโน้มขึ้น ตลาดหมีเป็นตลาดแนวโน้มลงนั่นเองค่ะ
- PAR (Par value) คือมูลค่าที่ตราไว้ทางบัญชี ถ้าช่วงนี้ประเด็นฮิตหน่อยก็จะเป็น การประกาศลดพาร์ของบางบริษัทเพื่อไปล้างขาดทุนสะสม อะค่ะ
- PE(PE Ratio) คือการนำราคาปิดหุ้นมาหารด้วยกำไรต่อหุ้น ถ้าค่าพีอียิ่งต่ำยิ่งดีค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละอุตสาหกรรมค่าเฉลี่ยจะแตกต่างกันค่ะ
- SPREAD คือช่วงราคาที่กำหนดให้ซื้อขายได้ ถ้าราคาหุ้นตัวนั้นต่ำ2บาทจะขึ้นลงทีละ 1สตางค์ / ถ้าราคาหุ้น2-5บาทขึ้นลงทีละ2 สตางค์ / ถ้าราคาหุ้น 5-10บาทขึ้นลงทีละ5สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา10-25บาทขึ้นลงทีละ10สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา25-100บาท ขึ้นลงทีละ25สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา100-200บาทขึ้นลงทีละ50สตางค์ / ถ้าราคาหุ้นเกิน200บาทขึ้นไปขึ้นลงทีละ2บาท งงมั๊ยคะ
- BIG CAP -SMALL CAP (Capital) บิ๊กแคป คือหุ้นทุนจดทะเบียนสูง บริษัทขนาดใหญ่ เช่นกลุ่มพลังงาน แบงค์ กองทุนต่างประเทศนิยมค่ะ ส่วนหุ้น สมอลแคป คือหุ้นทุนจดทะเบียนไม่มากเป็นบริษัทขนาดไม่ใหญ่ค่ะ
- XD(Excluding Dividend) คือวันขึ้นเครื่องหมายที่ผู้ซื้อวันนั้นจะไม่ได้นับเงินปันผลแล้ว จะต้องซื้อก่อนหน้านั้นนะคะ
- XW(Excluding warrant) คือวันขึ้นเครื่องหมายที่ผู้ซือ้วันนั้นจะไม่ได้รับสิทธิ์วอแรนท์
DIV Yeild (dividend yeild) หมายถึงอัตาปันผลของหุ้นตัวนั้น เป็นการเอาปันผลต่อหุ้นรายปี มาหารด้วยราคาหุ้น ก็จะเป็นอัตราผลตอบแทนจากปันผล ยิ่งสูงยิ่งน่าสนใจค่ะ
SP(Suspend) คือการขึ้นเครื่องหมายห้ามซือ้ขายหุ้นตัวนั้น จนกว่าตลาดจะอนุญาต
H (Hault) คือ การขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขายชั่วคราวจนกว่าตลาดจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
- อ่านกันจนเหนื่อยเลยใช่มะคะ นี่จิ๊บๆนะคะเนี่ย ตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาก่อนเข้ามาลงทุนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น