สวัสดีค่ะเพื่อนๆขา....

แม่หมอสาวคุยข่าวหุ้นยังคงเป็นเพื่อนร่วมทาง(การลงทุน)เพื่อนๆเหมือนเดิม โดยนำเสนอ หุ้นมีข่าว เช้าบ่าย ค่ำ อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดวัน ตลอดคืน .......แถมวันเสาร์มีเสริมบารมีนักลงทุนมานำเสนอเพื่อความเฮงด้วยนะคะ .... ส่วนวันอาทิตย์เป็นความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นในหัวข้ออ่านหมากตลาดหุ้นค่ะ .... สำหรับข่าวเรียลไทม์ ขอสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะสมาชิคเท่านั้นนะคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดต่อขอเป็นสมาชิคได้ที่ magicstocknews @gmail.com หรือ 086-8673392 ค่ะ


*

วันเสาร์

ศัพท์ควรรู้ของชาวหุ้น

-การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ง่ายนะคะ เฉพาะชื่อย่อหุ้นก็เวียนเฮดปวดหัวแล้วยังกะลายแทงขุมทรัพย์มหัศจรรย์สำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ ... ไหนจะสารพัดเครื่องหมาย ค่าอัตราส่วนต่างๆอีกหละ  เหนื่อยแน่นอนค่ะ... วันนี้แม่หมอเลยเลือกเอาเฉพาะคำที่สำคัญๆพร้อมความหมายมาฝากเพื่อนๆกันดังนี้ค่ะ

  • SET Index หรือดัชนีหุ้น คือตัวเลขที่วัดมูลค่าตลาดรวมโดยเทียบกับวันแรกที่เปิดทำการซื้อขายคือ30/4/2518 หลักๆก็เป็นการดูว่าภาพรวมของตลาดในแต่ละวันปรับขึ้นหรือปรับลงนั่นเองหละค่ะ โดยมีสูตรการคำนวณด้วยนะคะ
          SET=มูลค่าตลาดรวม ณ.วันปัจจุบันx100 / มูลค่าตลาดรวมณ.วันฐาน

Bull- Bear Market ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยค่ะ นึกถึงกระทิงเวลาขวิดจะเงยหน้าขึ้น หมีเวลาตะปบจะก้มลง นั่นก็คือตลาดกระทิงเป็นตลาดแนวโน้มขึ้น ตลาดหมีเป็นตลาดแนวโน้มลงนั่นเองค่ะ
  • PAR (Par value) คือมูลค่าที่ตราไว้ทางบัญชี  ถ้าช่วงนี้ประเด็นฮิตหน่อยก็จะเป็น การประกาศลดพาร์ของบางบริษัทเพื่อไปล้างขาดทุนสะสม อะค่ะ
BOOK(Book Value) คือมูลค่าทางบัญชี หมายถึงส่วนของผู้ถือหุ้นนั่นเองนะคะ คำนวณมาจากสินทรัพย์-หนี้สิน แล้วหารด้วยจำนวนหุ้น  หลักๆก็จะใช้เปรียบเทียบกับราคาที่ซื้อขาย ถ้าสูงกว่าก็น่าสนใจ และราคาบุ๊คจะถูกนำมาใช้เวลาที่มีการขายกิจการกันอะค่ะ
  • PE(PE Ratio) คือการนำราคาปิดหุ้นมาหารด้วยกำไรต่อหุ้น ถ้าค่าพีอียิ่งต่ำยิ่งดีค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละอุตสาหกรรมค่าเฉลี่ยจะแตกต่างกันค่ะ
BID OFFER คือราคาเสนอซื้อ และราคาเสนอขาย ซึ่งถ้าดูจากจอเทรดปัจจุบันจะเห็นราคาbid offer 5ช่อง บรรทัดบนจะเป็นราคาดีที่สุด คือเสนอซื้อแพงสุด และเสนอถูกสุด ค่ะ
  • SPREAD คือช่วงราคาที่กำหนดให้ซื้อขายได้ ถ้าราคาหุ้นตัวนั้นต่ำ2บาทจะขึ้นลงทีละ 1สตางค์ / ถ้าราคาหุ้น2-5บาทขึ้นลงทีละ2 สตางค์ / ถ้าราคาหุ้น 5-10บาทขึ้นลงทีละ5สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา10-25บาทขึ้นลงทีละ10สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา25-100บาท ขึ้นลงทีละ25สตางค์ / ถ้าหุ้นราคา100-200บาทขึ้นลงทีละ50สตางค์ / ถ้าราคาหุ้นเกิน200บาทขึ้นไปขึ้นลงทีละ2บาท งงมั๊ยคะ
BOARD LOT คือจำนานหุ้นที่จะส่งคำสั่งซื้อขาย ปัจจุบันขั้นต่ำเป็น100หุ้นและเพิ่มได้ทุกๆ100หุ้น ยกเว้นหุ้นBANPU ที่เป็น50หุ้น
  • BIG CAP -SMALL CAP (Capital) บิ๊กแคป คือหุ้นทุนจดทะเบียนสูง บริษัทขนาดใหญ่ เช่นกลุ่มพลังงาน แบงค์  กองทุนต่างประเทศนิยมค่ะ  ส่วนหุ้น สมอลแคป คือหุ้นทุนจดทะเบียนไม่มากเป็นบริษัทขนาดไม่ใหญ่ค่ะ
PORT(Port Folio) หมายถึงหุ้นต่างๆที่อยู่ในการบริหารขอองนักลงทุนรายใดราบหนึ่ง หรือก็คือสต๊อคหุ้นคงเหลือที่ซื้อแล้วยังไม่ได้ขายนั่นเอง
  • XD(Excluding Dividend) คือวันขึ้นเครื่องหมายที่ผู้ซื้อวันนั้นจะไม่ได้นับเงินปันผลแล้ว จะต้องซื้อก่อนหน้านั้นนะคะ
XR(Excluding Right) คือวันขึ้นเครื่องหมายที่ผู้ซื้อวันนั้นจะไม่ได้สิทธิจองซือ้หุ้นเพิ่มทุนค่ะ
  • XW(Excluding warrant) คือวันขึ้นเครื่องหมายที่ผู้ซือ้วันนั้นจะไม่ได้รับสิทธิ์วอแรนท์

DIV Yeild (dividend yeild) หมายถึงอัตาปันผลของหุ้นตัวนั้น เป็นการเอาปันผลต่อหุ้นรายปี มาหารด้วยราคาหุ้น ก็จะเป็นอัตราผลตอบแทนจากปันผล ยิ่งสูงยิ่งน่าสนใจค่ะ

         SP(Suspend) คือการขึ้นเครื่องหมายห้ามซือ้ขายหุ้นตัวนั้น จนกว่าตลาดจะอนุญาต

H (Hault) คือ การขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขายชั่วคราวจนกว่าตลาดจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
    

- อ่านกันจนเหนื่อยเลยใช่มะคะ นี่จิ๊บๆนะคะเนี่ย ตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาก่อนเข้ามาลงทุนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

Powered By Blogger